จึงได้ถามอาชีวกหนุ่มนั้นว่า “ดูก่อน ท่านผู้มีอายุ ท่านจะยังทราบข่าวของพระศาสดาบ้างหรือไม่”
ครั้งนั้น บรรพชิตผู้บวชเมื่อแก่ ชื่อสุภัทวุตบรรพชิต ได้บอกกับเหล่าภิกษุว่า “อย่าเลยผู้มีอายุ พวกท่านอย่าได้เศร้าโศกไป อย่าร่ำไรเลย เราพ้นดีแล้ว ด้วยว่าพระมหาสมณะนั้นเบียดเบียนพวกเราอยู่ว่า สิ่งนี้ควรแก่เธอ สิ่งนี้ไม่ควรแก่เธอ ก็บัดนี้ เราปรารถนาสิ่งใดก็จักทำสิ่งนั้น ไม่ปรารถนาสิ่งใด ก็จักไม่กระทำสิ่งนั้น”
(ภาพพระพุธองค์ปางปรินิพพานแบบภารหุต สมัยสุงคะ ที่น่าสนใจคือเครื่งประดับสถูป)
ในวันเพ็ญเดือน 10 หลังปรินิพพานแล้ว 4 เดือน อันเป็นช่วงเวลาเข้าพรรษาพอดี จึงเริ่มมีการสังคายนาที่คูหาสัตตบรรณพต กรุงราชคฤห์ โดยมีพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นเอกอัครราชูปถัมภก พระสงฆ์ทั้ง 500 รูปที่ร่วมกันสังคยนาล้วนแต่พระอรหันต์ขีณาสพ การสังคายนาใช้เวลา 7 เดือน จึงแล้วเสร็จ
.................................................................................
พุทธทาสภิกขุ ภาพพุทธประวัติหินสลัก ธรรมสภา 1 / 4-5 ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ
ศาสตรจารย์ พเยาว์ เหมือนวงษ์ญาติ ไม้พุทธประวัติ สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด้จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชวังดุสิต กรุงเทพ
พนิตา อังจันทรเพ็ญ พระพุทธประวัติ สมุดภาพจิตรกรรมไทยเฉลิมพระเกียรติ 81 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธรรมสภา 1 / 4-5 ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ
นวองคุลี เหตุเกิดหลังพุทธปรินิพพาน ธรรมสภา 1 / 4-5 ถ.บรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ